10 สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณ

10 สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณ

1.การวิจัยคำหลัก ขั้นตอนแรกในการทำ SEO คือการระบุคำหลักที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้เพื่อค้นหาข้อมูลออนไลน์ คุณสามารถใช้เครื่องมือวิจัยคำหลัก เช่น Google เครื่องมือวางแผนคำหลัก และ SEMrush เพื่อค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องและดูว่าคำหลักเหล่านี้สร้างปริมาณการค้นหาได้มากเพียงใด

2.การเพิ่มประสิทธิภาพบนหน้าเว็บ เมื่อคุณมีรายการคำหลักแล้ว คุณจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้เกี่ยวข้องกับคำหลักเหล่านั้นมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้คำหลักทั่วทั้งเว็บไซต์ของคุณ การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้เว็บไซต์ของคุณ

3.การเพิ่มประสิทธิภาพนอกหน้า การเพิ่มประสิทธิภาพนอกหน้าเกี่ยวข้องกับการสร้างลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณจากเว็บไซต์คุณภาพสูงอื่นๆ ลิงก์ย้อนกลับเป็นสัญญาณไปยังเครื่องมือค้นหาว่าเว็บไซต์ของคุณเชื่อถือได้และน่าเชื่อถือ คุณสามารถสร้างลิงก์ย้อนกลับได้โดยการสร้างเนื้อหาดีๆ ที่เว็บไซต์อื่นๆ ต้องการลิงก์ไป และโดยการเข้าถึงเว็บไซต์อื่นๆ และขอลิงก์

4.SEO ทางเทคนิค SEO ทางเทคนิคเกี่ยวข้องกับการปรับการกำหนดค่าทางเทคนิคของเว็บไซต์ของคุณให้เหมาะสมเพื่อให้เครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น การปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ของคุณ และแก้ไขลิงก์ที่เสียหาย

5.เนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ เนื้อหาคุณภาพสูงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO เนื้อหาของคุณควรให้ข้อมูล มีส่วนร่วม และเกี่ยวข้องกับผู้ชมเป้าหมายของคุณ คุณควรอัปเดตเนื้อหาของคุณเป็นประจำเพื่อให้มีความสดใหม่และเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

6.อุปกรณ์เคลื่อนที่ต้องมาก่อน ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่และไปยังส่วนต่างๆ บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ง่าย

7.ประสบการณ์ผู้ใช้ ประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ของเว็บไซต์ของคุณก็มีความสำคัญสำหรับ SEO เช่นกัน เว็บไซต์ของคุณควรจะใช้งานง่ายและนำทาง ผู้เข้าชมควรจะสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

8.โซเชียลมีเดีย โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ดีในการโปรโมตเว็บไซต์และเนื้อหาของคุณ เมื่อคุณแชร์เนื้อหาของคุณบนโซเชียลมีเดีย อย่าลืมใส่ลิงก์กลับไปยังเว็บไซต์ของคุณด้วย

9.ความอดทน SEO ต้องใช้เวลา ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน สิ่งสำคัญคือต้องมีความอดทนและสอดคล้องกับการทำ SEO ของคุณ

10.ติดตามเทรนด์ล่าสุด ภาพรวม SEO เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือการติดตามแนวโน้มล่าสุดและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อก้าวนำหน้าคู่แข่ง

SEO เป็นหัวข้อที่ซับซ้อน แต่ 10 สิ่งเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่ดีสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณสำหรับเครื่องมือค้นหา หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ได้ตลอดเวลา

เหตุผลที่ SEO สำคัญกับธุรกิจออนไลน์

เหตุผลที่ SEO สำคัญกับธุรกิจออนไลน์

การทำธุรกิจออนไลน์บนเว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ย่อมต้องการให้มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมมาก ๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก เพิ่มโอกาสในการทำยอดขาย โดยวิธีที่ช่วยให้ผู้คนค้นหาเว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ได้บ่อย ๆ คือการนำเทคนิค SEO มาใช้นั่นเอง

SEO คือ Search Engine Optimization เป็นการปรับแต่งเพื่อให้เว็บไซต์ หรือหน้าเว็บไซต์สามารถติดอันดับในการค้นหาด้วย Search Engine ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในระบบการค้นหานั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Bing, Yahoo สำหรับประเทศไทย ส่วนมากจะใช้เว็บไซต์ Google.co.th ในการค้นหาเป็นหลัก

Search Engine คือโปรแกรมที่ช่วยในการค้นข้อมูลต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้จะกรอกคำสำคัญ (Keyword) หรือคำที่สนใจในการค้นหา จากนั้น Search Engine จึงจะแสดงผลการค้นหาออกมาเป็นอันดับของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword ที่ค้นหา นั่นแสดงว่าการให้เว็บไซต์แสดงผลในอันดับต้น ๆ ของ Search Engine ได้ก็จะมีโอกาสที่ผู้คนจะคลิกเข้าไปดูเว็บไซต์มากขึ้นตามไปด้วย เมื่อมีผู้เข้าชมเว็บไซต์มาก ย่อมทำให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการ การเพิ่มโอกาสขายโฆษณา เป็นต้น แต่หากเว็บไซต์ไม่ได้แสดงผลใน Search Engine ย่อมมีโอกาสที่เว็บไซต์นั้นจะมีสภาพเหมือนเว็บไซต์ร้างที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ต่อธุรกิจเลย

SEO มีความสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร

การทำตลาดด้วย SEO หรือ SEO Marketing คือกระบวนการทำตลาดออนไลน์ที่โฟกัสด้วยการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ เพื่อสร้างโอกาสให้เว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ (ทั้งรูปภาพ หรือวิดีโอ) ได้ปรากฏเป็นลำดับต้น ๆ ในผลการค้นหาของ Search Engine ยิ่งเป็นอันดับแรก ๆ ก็ยิ่งดี ด้วยเหตุผลต่อไปนี้

  1. ปัจจุบันนี้ ผู้คนต่างใช้การเสิร์ช Google ค้นหาข้อมูลมากกว่าวันละ 3.5 พันล้านครั้ง หรือประมาณ 40,000 ครั้งต่อวินาที
  2. กว่า 90% ของผู้บริโภคที่ใช้อินเทอร์เน็ต มักไม่ติดสินใจซื้อ หรือทำอะไรกับแบรนด์ที่สนใจ หากยังไม่ได้ลองเสิร์ชหาข้อมูลที่จำเป็นดูก่อน
  3. การทำ SEO ที่ดีจะให้ผลลัพธ์ทางการตลาด (Conversion rate) สูงถึง 14.6% ซึ่งในขณะเดียวกันการตลาดแบบดั้งเดิมจะให้ผลลัพธ์นี้เพียง 1.7% เท่านั้น

อย่างในประเทศไทย Google คือช่องทางอันดับหนึ่งที่ผู้คนใช้ค้นหาสินค้า และบริการที่สนใจ หลายคนอาจรู้สึกว่าคิดอะไรไม่ออก ให้ลองบอกกูเกิ้ล รับรองว่าจะได้สิ่งที่ต้องการแน่นอน ดังนั้นเมื่อมีการค้นหาสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าใด ๆ แล้วเว็บไซต์ของผู้ประกอบการสามารถปรากฏให้ผู้คนเห็นได้เป็นลำดับแรก ๆ ย่อมเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ หรือสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี SEO จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ เพราะช่วยเพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมาก

SEO ปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์

SEO ปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์

SEO หรือ Search Engine Optimization คือ ระบบการค้นหาข้อมูลอัตโนมัติที่มีความสำคัญกับทุกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นระบบนำทางระหว่างผู้ใช้บริการ (User) ให้มาพบกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของร้านค้า บริษัท หรือองค์กรที่มีข้อมูลอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต โดย SEO หรือ Search Engine Optimization ประกอบไปด้วย

  1. Keyword Research หรือ คำ/ประโยค ที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลบนแพลตฟอร์มหรือ Search Engine โดย User จะกรอกคำค้นหาลงไปในช่องค้นหา จากนั้นแพลตฟอร์มนั้น ๆ จะแสดงผลเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword Research มากที่สุด โดยเราสามารถเลือก Keyword ที่มีความเกี่ยวข้องหลาย ๆ คีย์เวิร์ดเพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มให้เพิ่มมากขึ้นได้
  2. Site Structure การจัดวางแผนผังเว็บไซต์ให้รองรับการแสดงผลที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระเบียบเพื่อให้ง่ายต่อการแสดงผลเมื่อมีผู้ค้นหาข้อมูลบน Search Engine โดยการวางแผนผังเว็บไซต์ที่ได้รับการยอมรับจาก Google มี 4 รูปแบบ คือ Linear Structure โครงสร้างเว็บแบบเส้นตรง – เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการเผยแพร่องค์ความรู้ที่มีการเชื่อมต่อกันคล้ายกับการอ่านหนังสือ, Hierarchical Structure โครงสร้างเว็บแบบต้นไม้ – เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีหัวข้อองค์ความรู้ที่หลากหลายและมีหัวข้อปลีกย่อยที่เชื่อมโยงกัน, Web Linked Structure โครงสร้างเว็บแบบเชื่อมโยงอิสระ – เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลไม่มาก และ Hybrid Structure โครงสร้างเว็บไซต์แบบผสมระหว่าง Linear Structure และ Hierarchical Structure
  3. On-page SEO เป็นการตั้งค่าบนเว็บไซต์ให้รองรับต่อการทำ SEO ประกอบไปด้วยการตั้งชื่อไฟล์ภาพด้วย Keyword ทีเกี่ยวข้องและมี User ค้นหาบ่อย, การใส่ Meta Tag รวมไปถึงการทำบทความที่แทรก Keyword และเป็นบทความที่มีประโยชน์ต่อ User เป็นต้น ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดบนหน้าเว็บไซต์จะต้องมีการแทรก Keyword เอาไว้ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการแสดงผลที่เป็นประโยชน์ต่อ User
  4. Link Building เป็นการสร้างลิงก์บนเว็บไซต์ของผู้อื่นที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการนำลิงก์บทความหรือเว็บไซต์ไปโพสต์บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นตัวเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์ให้เพิ่มมากขึ้น โดยเขียนเนื้อหาให้มีความเชื่อมโยงกับเนื้อหาของเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเว็บไซต์

การเรียนรู้เรื่องการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำอาชีพออนไลน์บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยเฉพาะการเลือก Keyword Research ที่มีคุณภาพมาใช้ในการตั้งชื่อและเขียนรายละเอียดสินค้าหรือบริการที่จะช่วยให้เกิดการแสดงผลที่ดีกว่าเมื่อมีลูกค้าค้นหาและเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า รวมถึงการทำเว็บไซต์ที่มีการทำ SEO จะช่วยให้การประกอบอาชีพออนไลน์ประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น

ดังนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำ SEO เป็นอันดับต้น ๆ

SEO เบื้องหลังความสำเร็จทางธุรกิจออนไลน์

SEO คืออะไร

ธุรกิจออนไลน์ คำศัพท์นี้มีมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นปี 1994 จากเว็บไซต์แพลตฟอร์ม e-Commerce ที่เปรียบดั่งตลาดกลางและร้านขายของชำชื่อดังในต่างประเทศในยุคแรก เช่น Amazon.com และ eBay.com เป็นต้น แต่เมื่อราวปี 2010 ธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทย กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดมาพร้อมกับความนิยมใช้ Facebook ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ สามารถโพสต์ประกาศขายสินค้าได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญคือประกาศฟรี จึงทำให้มีพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่สินค้าเหล่านั้นอาจไม่ได้รับความไว้วางใจ เนื่องจากการให้บริการกันเองตามความสะดวกของพ่อค้าและลูกค้าแต่ละราย

ต่อมาปี 2017 ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มหันไปใช้จับจ่ายสินค้าออนไลน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Lazada, Shopee, JD CENTRAL ซึ่งมีกลยุทธ์ทางการตลาด การลดราคาที่สร้างแรงจูงใจในการซื้อ มีระบบการโอนเงินผ่านธนาคารและระบบการจัดส่งสินค้าที่ปลอดภัยน่าเชื่อถือ จึงเห็นได้ว่า สุดท้ายแล้วผู้บริโภคต้องการความน่าเชื่อถือจากธุรกิจออนไลน์ที่มาพร้อมกับคุณภาพสินค้า โปรโมชั่นลดราคา และความสะดวกสบายในการเลือกซื้อ

แต่เหนือสิ่งอื่นใด เบื้องหลังความสำเร็จทางธุรกิจออนไลน์ คือการโฆษณาให้ผู้บริโภคมองเห็นและสนใจซื้อสินค้าและบริการของตนเองนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่วิธีใหม่แต่อย่างใด แต่วิธีโฆษณาสินค้าแบบใหม่ที่นักธุรกิจออนไลน์ทุกระดับทั่วโลกต้องให้ความสนใจและต้องศึกษาอย่างจริงจัง คือ SEO

SEO คืออะไร

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization อธิบายให้เข้าใจ SEO อย่างรวดเร็ว คือการทำเว็บไซต์ของธุรกิจตนเองให้ตรงตามเกณฑ์การวัดผลของ Google โดยมีเป้าหมายหลัก คือเพื่อให้เว็บไซต์ธุรกิจของตนเองได้ขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ใน Google หน้าแรก ซึ่งจะดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลกและเพิ่มการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมหาศาล

แล้วจะทำเว็บไซต์อย่างไรให้ลูกค้ามองเห็นในหน้าแรกของ Google

คำตอบนี้ เกิดจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่มักจะ search หาข้อมูลก่อนเลือกซื้อสินค้านั่นเอง keyword คือสิ่งที่ลูกค้าพิมพ์ค้นหาสินค้าและบริการ ดังนั้น การคิด keyword ให้ตรงใจลูกค้า เพื่อให้ลูกค้า search เจอเว็บไซต์ธุรกิจของตน คือหัวใจหลักที่ธุรกิจออนไลน์มองข้ามไม่ได้ ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์

SEO เป็นเบื้องหลังความสำเร็จทางธุรกิจออนไลน์ได้อย่างไร

การออกแบบเว็บไซต์ให้ตรงกับเกณฑ์การวัดผลเพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google เป็นประเด็นสำคัญในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องมีการจัดวาง keyword เหล่านั้นภายในโครงสร้างวิศวกรรมของเว็บไซต์ ภายในเนื้อหาภายในเว็บไซต์ และมีการกล่าวถึงจากเว็บไซต์อื่น ๆ ซึ่งปริมาณ keyword ต้องมีมากพอและไม่ใช้พร่ำเพรื่อจนเว็บไซต์ขาดความน่าเชื่อถือ สิ่งเหล่านี้ คือหัวใจสำคัญของการทำ SEO

SEO ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมองให้ออกและหมั่นปรับปรุงแก้ไขเว็บไซต์ตาม keyword ที่มักเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของลูกค้าเสมอ เพียงเท่านี้ธุรกิจออนไลน์ของคุณก็ก้าวเข้าสู่ประตูแห่งความสำเร็จ ซึ่งมี SEO อยู่เบื้องหลังนั่นเอง

SEO เบื้องหลังความสำเร็จทางธุรกิจออนไลน์

ข้อดีของการทำ SEO ที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ไม่ควรมองข้าม

ข้อดีของการทำ SEO ที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์และใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาด คงคุ้นเคยกับการทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีของการค้นหาข้อมูลใน Google กันอยู่แล้ว ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจหน้าใหม่อาจไม่มีประสบการณ์และไม่เข้าใจว่าจะมีประโยชน์อย่างไร ส่วนใหญ่คิดว่าการลงทุนใน SEO ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่ออัดฉีดโฆษณาและการทำตลาดโซเชียลมีเดียเพื่อเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหา ความจริงแล้วมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญและปรับปรุงการจัดอันดับเว็บไซต์ที่ดีและเหมาะสมโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากอย่างที่คิด

เคล็ดลับ 5 ข้อสำคัญที่ช่วยให้การทำเนื้อหา SEO น่าสนใจมีดังนี้

1.ใส่ใจคำหลัก

เนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของกระบวนการทำ SEO หากเนื้อหาคอนเทนต์มีความยาวจะต้องกำหนดคำหลักที่หลากหลาย ลองเปลี่ยนคำหลักที่ใส่ไว้ในบทความเสมอ วิธีการคือป้อนคำหลักในเนื้อหาครั้งแรกและเปลี่ยนคำใหม่ที่มีความหมายเดียวกัน แทนการเปลี่ยนคำอื่นที่มีความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง นอกจากไม่ใช้คำหลักเดียวซ้ำแล้วซ้ำอีก ควรสร้างความแตกต่างในคำหลักและคำรองด้วย จะช่วยปรับคีย์เวิร์ดให้เหมาะสมกับการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหามากขึ้น

2.เลือกภาพน่าประทับใจ

การค้นหาส่วนใหญ่ได้ผลลัพธ์จากภาพเดียวที่ปรากฏในเนื้อหา บทความที่มีภาพประกอบสวยงามดึงดูดความสนใจและสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่าน แทรกในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เห็นคอนเทนต์ที่เป็นไปด้วยข้อความเท่านั้น ภาพที่ดีสะท้อนคุณภาพทำให้ผู้อ่านใส่ใจอ่านบทความอย่างรอบคอบ ความประทับใจมีผลให้ผู้อ่านแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียหรือเชื่อมโยงลิงก์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก นั่นคือเหตุผลที่ควรให้ความสำคัญกับรูปภาพในคอนเทนต์

3.ใช้คลิปวิดีโอสั้นๆ

การรับชมวิดีโอบนโซเชียลมีเดียกำลังได้รับความนิยม แนะนำให้ใช้วิดีโอในเนื้อหาเป็นวิดีโอสั้น ๆ ที่มีความยาวประมาณ 45-50 วินาที ไม่เกิดปัญหาโหลดช้าและสะดวกในการแชร์ไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยเฉพาะ Facebook และสร้างลิงก์ย้อนกลับมายังบทความในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเยี่ยมชมมากขึ้น

เคล็ดลับ 5 ข้อสำคัญที่ช่วยให้การทำเนื้อหา SEO

4.การเชื่อมโยงภายใน

โครงสร้างเว็บไซต์ควรออกแบบให้บทความเชื่อมโยงถึงกัน การสร้างลิงก์เชื่อมโยงภายในมีประโยชน์มาก ง่ายต่อการติดตามอ่านและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือค้นหา แน่นอนว่าสนับสนุน การทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์มีการจัดอันดับสูงขึ้น

5.การเชื่อมโยงภายนอก

การทำเว็บไซต์ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างลิงก์เชื่อมโยงภายนอก เนื้อหาบทความที่มีประโยชน์จะสร้างความประทับใจให้ผู้อ่านแชร์ต่อไปยังโซเชียลมีเดีย รวมถึงการแลกเปลี่ยนลิงก์กับเว็บไซต์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง หมายความว่าการสร้างเนื้อหาใหม่เพื่ออัปเดตและปรับปรุงหน้าเว็บอยู่เสมอจะทำให้มีการแลกลิงก์และแชร์ไปที่เว็บไซต์อื่นอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ นับตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างเว็บใช้งานง่ายไปจนถึงการเขียนบทความมีคุณภาพทำให้เว็บไซต์น่าเชื่อถือและกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้พลาดคอนเทนต์ดี ๆ สามารถเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการหน้าใหม่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีสามารถเพิ่มรายได้ทางธุรกิจอย่างแน่นอน

การทำ SEO มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง

การทำ SEO มีอะไรที่ต้อง

การทำ SEO เป็นสิ่งที่นักธุรกิจออนไลน์ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้สามารถประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ Search Engine และเป็นการพัฒนาเว็บไซต์ให้ได้ประโยชน์ในระยะยาว

การทำ SEO มีสิ่งที่นักธุรกิจออนไลน์ต้องรู้ก่อนการทำเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดดังนี้

1. การทำ SEO ต้องทำตามหลักเกณฑ์ตามที่ Google หรือ Yahoo กำหนด เพราะจะมีระบบ Algorithm มาตรวจสอบอยู่เสมอ เช่น ระบบแพนด้าระบบฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งจะทำหน้าที่เช็คว่ามีคัดลอก Copy บทความซ้ำมาจากที่อื่นหรือไม่ หรือมีการใส่ keyword ที่มากเกินไป จนทำให้บทความไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่

ถ้าทำผิดกฎของ Search Engine ก็จะถูกลดระดับความน่าเชื่อถือและทำให้ลดโอกาสขายสินค้าและบริการได้ แต่ถ้าสามารถทำเว็บไซต์ให้มีคุณภาพได้ตามหลักเกณฑ์ที่ Search Engine กำหนดก็จะทำให้มีโอกาสถูกจัดอันดับสูงขึ้นในหน้าต่างการสืบค้น และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาแบบอื่นไปได้มาก

2. การทำ Keyword SEO เป็นสิ่งที่ต้อง ให้ความสำคัญ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีการใช้ Keyword ในการพิมพ์ในช่อง Yahoo Search และ Google Search หากเลือก Keyword ไม่เหมาะสมในการนำมาเขียนบทความ ก็จะทำให้เสียโอกาสในการจัดอันดับที่ดีไปได้ เนื่องจากว่าระบบ Algorithm ไม่สามารถวิเคราะห์เจอ Keyword ที่ลูกค้าต้องการ

3. การทำ Content SEO ควรจะเลือกนักเขียนที่มีความสามารถในการเขียนบทความที่ใส่ Keyword ได้อย่างเหมาะสม ไม่มีการยัดเยียดคีย์เวิร์ด เนื้อหามีความเป็นปัจจุบันสามารถส่งงานได้อย่างสม่ำเสมอ และสามารถใช้ภาษาที่น่าอ่าน ไม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อหรือรู้สึกไม่ประทับใจ จนไม่กลับมาใช้บริการเว็บไซต์ซ้ำอีก

4. การทำ SEO ต้องสนใจในส่วนของ On-page SEO คือ ด้านโครงสร้างเว็บไซต์ด้วย เพราะต้องมีสีสันที่ดูแล้วสบายตา ฟ้อนต์ตัวอักษรต้องเหมาะสม นอกจากนี้ การทำสื่อประกอบ เช่น คลิป ภาพ มัลติมีเดีย ก็ต้องสื่อถึงสินค้าและบริการในแนวทางเดียวกัน เพื่อทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจำยี่ห้อสินค้าได้ดีขึ้น

เช่น ถ้าเป็นเว็บไซต์ขายสินค้ากลุ่มออร์แกนิคก็ควรใช้สีที่ดูแล้วสบายตา เช่น เขียวขาว และเนื้อหาที่สร้างความเป็นกันเองกับคนอ่าน เป็นต้น

5. การมีทีมงานดูแลข้อมูลและการอัพเดตในเว็บไซต์สม่ำเสมอ เพราะเป็นสิ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี และจะทำให้ระบบ Algorithm มีข้อมูลสะสมที่เพียงพอต่อการจัดอันดับที่ดีขึ้นด้วย

จากที่กล่าวมา ผู้สนใจจะทำธุรกิจออนไลน์ จึงควรต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการทำเว็บไซต์ SEO เพื่อทำให้ใช้เวลาน้อยลงในการพัฒนาเว็บไซต์ และสามารถประชาสัมพันธ์ได้เร็วขึ้น เพื่อทำให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งเจ้าอื่นได้ดียิ่งขึ้น

การทำ SEO มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง

7 สิ่งที่ได้จากการทำเว็บไซต์ SEO เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ

7 สิ่งที่ได้จากการทำเว็บไซต์ SEO เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ

7 สิ่งที่ได้จากการทำเว็บไซต์ SEO เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ

การทำธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องตีโจทย์ให้แตกว่า จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างไรให้โดนใจและรักษาที่นั่งในใจของกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด เพื่อเพิ่มยอดขายและทำให้ธุรกิจเติบโตยาวนาน และนี่คือ 7 สิ่งที่คุณจะได้จากการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบ SEO เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว ซึ่งไม่ควรพลาดแม้แต่ข้อเดียว

ทำเว็บไซต์ SEO เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ

1. เว็บไซต์ที่ทำ SEO จนได้อันดับต้น ๆ ในการสืบค้นจาก search engine จะเท่ากับได้รับการโปรโมตตลอดเวลาทั้ง 24 ชั่วโมงในทุกวัน เนื่องจากจะมีผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายคลิกเข้ามาอ่านบทความและเลือกซื้อสินค้าและบริการมากกว่าเว็บไซต์ที่อยู่ดันดับรอง ๆ ลงมา

2. บทความ SEO สามารถสร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ให้กับเว็บไซต์ของคุณ จนเป็นที่ติดตา ติดตลาดและบอกต่อกัน ตัวอย่างเช่น เว็บเพจเกี่ยวกับการลงทุนหรือจิตวิทยาการตลาดที่มีแนวเขียนชัดเจน จะทำให้เกิดการติดตามอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจสินค้าและบริการของเว็บไซต์สามารถขายได้ยอดสูงตามไปด้วย

3. การสร้างภาพลักษณ์ใหม่ด้วยการจัดระบบ SEO จะทำให้เกิดผลเชิงบวกทั้งในทัศนคติของลูกค้าที่มีต่อบริษัทและกระตุ้นยอดขายให้กระเตื้องขึ้นได้อย่างมากทีเดียว

4. ช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเก่า ที่เคยซื้อสินค้าจากบริษัทที่มีหน้าร้านออฟไลน์มากก่อน หากเจ้าของธุรกิจได้ขับขยายตลาดและทำให้มีคุณภาพด้วยการเสริมระบบ SEO ในเว็บไซต์จะทำให้เพิ่มความเชื่อมั่นและสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้จากความสะดวกสบายในการสั่งซื้อและจัดส่งทางออนไลน์

5. สามารถขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้นรองรับลูกค้าใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายทางระบบออนไลน์ ซึ่งแน่นอนกว่าหากมีแต่หน้าร้อนออฟไลน์ที่ต้องอาศัยทำเลในการเรียกลูกค้า หรือมีหน้าร้านออนไลน์แต่เป็นแบบดั้งเดิมไม่มีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับการค้นหาทาง search engine ก็ยากที่จะได้รับออเดอร์จากลูกค้ากลุ่มนี้

6. การทำ SEO ช่วยให้สินค้าติดตลาดยาวนานขึ้น เพราะลูกค้าจะเกิดการบอกต่อกัน ทั้งจากลูกค้าเก่าขาประจำที่นิยมในสินค้าและบริการมาหลายปี และลูกค้าใหม่ที่มีความประทับใจในภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและบริการที่รวดเร็ว การบอกต่อกันและการส่งลิงค์ต่อคนรู้จักจากบรรดาลูกค้าของเว็บไซต์ SEO จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณทั้งระยะสั้นและระยะยาว

7. เป็นการยกเครื่องเว็บไซต์ในเชิงเทคนิค การปรับเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบ SEO จะทำให้ค้นพบจุดผิดพลาด เช่น การลงโค้ดผิด หรือ การใช้คีย์เวิร์ดที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ทำให้เกิดการวางแนวทางแก้ไขที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

บทความ SEO

จะเห็นได้ว่า ทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่ได้จากระบบ SEO ที่นักธุรกิจออนไลน์ไม่ควรพลาด เพื่อการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายและขยายฐานการตลาดให้กว้างขึ้น รองรับการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ต่อไป

SEO เพิ่มยอดขาย-เสริมภาพลักษณ์ธุรกิจได้อย่างไร

การทำ SEO ช่วยอะไรได้หลายอย่าง

การทำ SEO ช่วยอะไรได้หลายอย่าง

การทำ SEO จำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์ในปี 2018 เนื่องจากเรากำลังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มยอดขายและเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น การทำธุรกิจรุ่นใหม่ หรือการรีโนเวท (renovate) โครงสร้างธุรกิจที่เคยมีอยู่แบบเดิม ให้ทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมหาซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ การทำ SEO จำเป็นต้องใช้หลักการความรู้ทางการตลาด ควบคู่กับความต่อเนื่องในการทำเป็นระยะยาว จึงมีบริษัทเอกชนหลายบริษัทที่รับจ้างทำ SEO ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อปรับโครงสร้างของ website และลดปัญหาการสืบค้นไม่พบเว็บไซต์ของบริษัทจากทาง search engine

ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าการจ้างทำ บริการทำ SEO จะเกิดเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน เนื่องจากไม่มีบริษัทใดใช้ระบบผูกขาดกับ SEO ได้ ซึ่งมีข้อดีที่ช่วยลดปัญหาว่าบริษัทใหญ่ ๆ หรือการลงทุนสูงต้องอยู่อันดับต้นจากการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด เพราะการทำ SEO ต้องใช้เวลาสั่งสมดาต้า (data) เชิงคุณภาพมากกว่าการจ้างด้วยกำลังทรัพย์มากในคราวเดียว

นอกจากนี้ สายงานธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก เช่น การโรงแรม ทัวร์ท่องเที่ยว หรือ สินค้าแฟชั่นต่าง ๆ ล้วนต้องสะสม data เข้าสู่ฐานข้อมูล ซึ่งระบบ search engine อย่างกูเกิ้ล ยาฮู ฯลฯ จะใช้อัลกอริทึ่ม (algorithm) เฉพาะตัวในการประมวลและลำดับ หรือ ranking ผลว่าเว็บไซต์ใดมีการอัพเดตเป็นประจำ ทั้งพิจารณาจากการได้เสียงตอบรับจากกลุ่มเป้าหมาย ว่ามีความนิยมซื้อสินค้าหรือเลือกใช้สินค้าบริการจาก website ใดมากกว่ากัน ก็จะได้รับตำแหน่งอันดับท็อป (top) ในการค้นหา

ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์ว่าการอยู่ในหน้าเพจ 1 – 3 ของการสืบค้นมีนัยสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากลูกค้ามักจะตกลงใจใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากเว็บไซต์เหล่านี้มากกว่าการคลิกหาร้านอื่น ๆ ในหน้าหลัง ๆ นอกจากนี้ ยังพบว่าการอยู่ในอันดับ 1 จะมีโอกาสได้รับรายได้มากกว่าการอยู่ในลำดับ 2 ถึงราว ๆ สองเท่า เนื่องจากลูกค้ามีความมั่นใจในภาพลักษณ์ และรู้สึกว่าบริษัทต้องมีลูกค้าใช้บริการหรือซื้อสินค้ามาก สินค้าจะมีความสดใหม่ หมุนเวียนดีและมีความน่าเชื่อถือสูง

SEO เพิ่มยอดขาย-เสริมภาพลักษณ์ธุรกิจได้อย่างไร

การทำ SEO ช่วยอะไรได้หลายอย่าง

นอกจากนี้ การทำ SEO ยังช่วยให้เกิดภาพจำใหม่ ๆ ให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น ร้านขายหมูปิ้ง อาจเป็นภาพที่คุ้นตาว่าเป็นแบบรถเข็นหรือหน้าร้านออฟไลน์ การทำเป็นหน้าร้านออนไลน์ที่สืบค้นได้ง่ายจาก SEO จะเกิดภาพจำใหม่ ๆ และเป็นที่ติดตลาด หากเป็นเจ้าแรกๆ ที่ทำในธุรกิจแนวนั้น การทำ SEO จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจและต้องกันค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งมาเป็นต้นทุนการประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัทผ่านทาง SEO เว็บไซต์ ซึ่งทำให้ธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้น